กระท้อน (Santol) เป็นผลไม้พื้นบ้านของไทยที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เนื้อฟูฉ่ำ และกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ นอกจากความอร่อยแล้ว กระท้อนยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพและสรรพคุณทางยามากมายที่อาจทำให้คุณทึ่ง
คุณค่าทางโภชนาการของกระท้อน
กระท้อนอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ได้แก่:
- วิตามินซี: ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันหวัด ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส
- ใยอาหารสูง: ช่วยในระบบขับถ่าย ป้องกันท้องผูก และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- แคลเซียมและฟอสฟอรัส: จำเป็นต่อการสร้างและบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ธาตุเหล็ก: ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง
- วิตามินบี1 และ บี3: มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบประสาทและสมอง
- สารต้านอนุมูลอิสระ: เช่น ฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย
กระท้อน ประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าสนใจ
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่กล่าวมา กระท้อนจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลาย ดังนี้:
- ช่วยลดน้ำหนัก: กระท้อนมีใยอาหารสูง ทำให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และมีแคลอรีต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- บำรุงผิวพรรณ: วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในกระท้อนช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด มลภาวะ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่ง และชะลอการเกิดริ้วรอย
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: วิตามินซีสูงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
- ป้องกันท้องผูก: ใยอาหารในกระท้อนช่วยเพิ่มปริมาณกากใยในลำไส้ ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ และลดความเสี่ยงของโรคริดสีดวงทวาร
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ใยอาหารยังช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงเร็ว เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
- ลดคอเลสเตอรอล: ใยอาหารในกระท้อนสามารถช่วยดักจับไขมันและคอเลสเตอรอลในลำไส้ และขับออกจากร่างกาย
- บรรเทาอาการภูมิแพ้: สารบางชนิดในกระท้อนอาจมีคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ เช่น อาการคัน หรือผื่นแพ้
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น: นอกจากใยอาหารแล้ว การรับประทานกระท้อนยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้
- ใช้เป็นยาขับพยาธิ: ในตำรายาไทยโบราณมีการใช้เมล็ดกระท้อนนำมาต้มกับน้ำดื่มเพื่อขับพยาธิ แต่ควรระวังไม่ควรเคี้ยวเมล็ดเพราะมีพิษ
- บำรุงกระดูกและฟัน: แคลเซียมและฟอสฟอรัสในกระท้อนมีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
วิธีการนำกระท้อนมารับประทาน
กระท้อนสามารถนำมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น:
- รับประทานสด: ปอกเปลือก ฝานเนื้อ หรือคว้านเมล็ดออก ทานคู่กับเกลือ พริก หรือน้ำปลาหวาน
- ทำกระท้อนทรงเครื่อง: นำเนื้อกระท้อนไปขยำกับน้ำเกลือเพื่อลดความฝาด แล้วนำมาปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา พริก และถั่ว
- ทำกระท้อนลอยแก้ว: นำเนื้อกระท้อนมาเชื่อมกับน้ำเชื่อมและน้ำแข็ง
- ทำน้ำกระท้อน: ปั่นเนื้อกระท้อนกับน้ำแข็งและน้ำเชื่อม เป็นเครื่องดื่มดับร้อน
- ทำแยมกระท้อน: นำเนื้อกระท้อนมาเคี่ยวกับน้ำตาล
ข้อควรระวังในการบริโภคกระท้อน
แม้ประโยชน์ของกระท้อนจะมีมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการ:
- เมล็ดกระท้อน: ห้ามเคี้ยวหรือกลืนเมล็ดกระท้อนโดยเด็ดขาด เนื่องจากเมล็ดกระท้อนมีพิษ หากกลืนลงไปอาจทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ ลำไส้อักเสบ หรือลำไส้ทะลุได้ ควรเอาเมล็ดออกก่อนรับประทานเนื้อ
- ความฝาด: กระท้อนบางพันธุ์อาจมีรสฝาดมาก ควรขยำกับน้ำเกลือก่อนรับประทานเพื่อลดความฝาด
- ปริมาณน้ำตาล: การนำกระท้อนมาทำเป็นของหวาน เช่น กระท้อนลอยแก้ว หรือกระท้อนทรงเครื่อง มักมีการใส่น้ำตาลในปริมาณมาก ควรบริโภคแต่พอดีเพื่อสุขภาพที่ดี
สรุป
กระท้อนเป็นผลไม้ที่นอกจากจะให้ความสดชื่นและรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเรื่องระบบขับถ่าย บำรุงผิวพรรณ หรือเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการบริโภคอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระมัดระวังเรื่องเมล็ดกระท้อน
คุณชอบทานกระท้อนแบบไหนมากที่สุดคะ? หรือมีเมนูกระท้อนเด็ดๆ ที่อยากแนะนำบ้างไหม?